Natural beauty
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น โทนเนอร์มะเฟือง ครีมมะขามและผงถั่วเขียว
วันนี้เอาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมาฝากค่ะ เป็นของเสริมสวยของแขเองแหละ เกิดจากช่วงนี้ไปยืดผมมาแล้วผมแห้งมากเลย ประกอบกับรู้สึกอยากบำรุงหน้ามากกว่ามาส์กที่เคยทำลงบล๊อกไปก่อนแล้ว เลยหาข้อมูลหลายๆที่ ก็มาลงตัวที่ของ 4 อย่างนี้ค่ะ เป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น โทนเนอร์มะเฟือง ครีมมะขามและผงถั่วเขียว
- น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ชิ้นแรกขอเริ่มที่น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนะคะ ตัวนี้ดูเหมือนจะมีคนนำมาทานกันด้วย แต่เราขอบายค่ะ อ้วนพอแล้วไม่อยากได้ไขมันเพิ่ม เหอๆ ขอเอามาทำสวยแทนเนอะ น้ำมันมะพร้าวมีหลายยี่ห้อเลย เลือกเอาค่ะ ยี่ห้อที่เลือกนี้ชอบแพกเกจค่ะ ขวดเรียวๆ ฉลากเป็นพลาสติก ทำให้สามารถล้างขวดได้โดยฉลากไม่ยุ่ยขาด ฝาปิดก็โอเคค่ะ
น้ำมันข้างในสีใส กลิ่นหอมมะพร้าวมาก ได้กลิ่นแล้วนึกถึงขนม-* -
เวลาใช้ก็เทลงบนฝ่ามือทีละน้อย แล้วชโลมลงบนผมแห้งให้ทั่วเน้นปลายผม เว้นโคนผมไว้ 2 นิ้วค่ะ ถ้าเปรียบเทียบกับน้ำมันมะกอกที่เคยใช้ ตัวนี้จะมันน้อยกว่าค่ะ คือรู้สึกเหมือนกระจายไม่ทั่วผมทั้งที่ใช้ปริมาณเยอะแล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่มากแต่ให้เราเอามือเราเนี่ยยีๆผมแทน ไม่อย่างนั้นจะเปลืองมากเลย พอชโลมทั่วแล้วให้รวบผมไว้ จะคลุมผ้าหรืออะไรก็แล้วแต่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง จึงสระออกค่ะ น้ำมันมะพร้าวนี่สระออกง่ายกว่าน้ำมันมะกอกมาก แค่ลงแชมพู 2 รอบก็มีฟองแล้ว ถ้าเป็นน้ำมันมะกอกต้องถึง 4 รอบค่ะ จัดการสระผมลงครีมนวดไปตามปกติเลย พอสระเสร็จจะรู้สึกเหมือนผมแห้งๆ (ถ้าใช้น้ำมันมะกอกจะรู้สึกว่าผมนิ่มกว่า) ไม่ต้องกลัวค่ะ พอวันรุ่งขึ้นผมจะมันเอง มันจริงๆค่ะ แต่ไม่ได้แบบมันเยิ้ม คือ จะรู้สึกว่าผมมีน้ำหนักผิดกลับตอนหลังสระเสร็จ ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงการลงน้ำมันใส่ผมทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นผมเราจะลีบติดหัวได้ ประสบการณืหลังจากใช้อาทิตย์ละครั้งมา 2 เดือนก็พบว่า ผมแห้งน้อยลง ขาดร่วงน้อยลง เหมือนผมจะดำเสมอกันมากขึ้นด้วย ปลายผมที่เคยแตกก็มีน้อยลง(เล็มปลายที่แตกทิ้งก่อนะคะ) ผมมีน้ำหนักขึ้นเล็กน้อย ก็ปลื้มค่ะ ถึงแม้ช่วงแรกจะไม่ค่อยชินเรื่องผมมันแล้วอยากสระผมมากก็ตาม แต่ใช้ไปเรื่อยๆก็ชิน ยิ่งช่วงสงสกรานต์ที่แดดแรงๆ ก็จะหมักผมเป็นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ผมก็ไม่เสียไม่แห้งกรอบด้วยค่ะ
ถามว่าหมดแล้วซื้อใช้อีกไหม อันนี้คิดว่าจะใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แทนค่ะ เพราะราคาถูกกว่า (แต่กลิ่นก็ไม่หอมเท่านะ) เพราะน้ำมันมะกอกทำให้ผมนิ่มกว่า และ หลังสระผมไม่แห้งเหมือนน้ำมันมะพร้าวค่ะ
- โทนเนอร์มะเฟืองและผงถั่วเขียว
2 ชิ้นนี้ได้มาเพราะเคยอ่านเจอว่า ผงถั่วเขียวลดความมันได้ดีมาก ประโยคนี้ประโยคเดียวเลยค่ะที่ทำให้ตามล่าหามาลองใช้ ฮ่าๆ ก็เพราะเป็นคนหน้ามันมาก มันเทพๆเลย ปลงแล้วว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนที่คุมมันได้มากจริงๆ จนมาลองผงถั่วเขียวนี่แหละ วิธีใช้ก็คือเทผงถั่วเขียงลวบนฝ่ามือประมาณเหรียญ5 บาทเกินนิดหน่อย แล้วเทโทนเนอร์มะเฟืองลงไป กะให้พอแฉะๆแต่ไม่เหลวมาก แล้วคนๆให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำมาล้างหน้าแบบนวดวนเป็นวงกลมด้วยปลายนิ้วจนทั่ว ล้างออกด้วยน้ำสะอาด หลังใช้ครั้งแรกพบว่า หลังล้างหน้า หน้าหายมันเลยแต่ไม่ได้แห้งนะคะ พอทิ้งไว้โดยไม่ทาครีมใดๆ 2 ชั่วโมงผ่านไป หน้ายังไม่มันเลย ดีใจมาก แต่พอครั้งหลังๆหน้าก็เริ่มมันขึ้นนิดหน่อย คงเพราะเป็นการปรับสภาพด้วย สรุปว่ารักเลยค่ะ แต่ต่อไปคิดว่าจะซื้อถั่วเขียวมาบดเอง ฮ่าๆ
มาต่อที่โทนเนอร์มะเฟืองกันค่ะ ตัวนี้ซื้อมาลอง 2 ตัวด้วยกัน ในรูปข้างล่าง เขาจะขายเป็นแพ๊คคู่กับผงถั่วเขียวค่ะ ซึ่งในขวดจะเห็นว่ายังมีกากมะเฟืองอยู่เลย สีจะเข้มแต่ใสกว่าอีกยี่ห้อหนึ่ง(รูปด้านล่างถัดไป) กลิ่นผลไม้บูดเปรี้ยวๆแรงกว่านิดหน่อย
2 ชิ้นนี้ขายมาคู่กัน
นี่คืออีกขวดที่พูดถึงค่ะ จะเห็นว่าน้ำขุ่นกว่านิดหน่อย(ขวดก็ขุ่นกว่าด้วย)
น้ำมะเฟืองข้างในจะไม่มีกากค่ะ
จริงๆชื่อคือโทนเนอร์มะเฟืองแต่เคยใช้แบบเทลงสำลีเอามาเช็ดหน้า รู้สึกทนกลิ่นไม่ไหว แล้วคิดว่ามันแรงไป เลยใช้ล้างหน้าดีกว่า ถ้าใครจะลองใช้ให้ลองตรงคางก่อนนะคะว่าแพ้ไหม อย่าเพิ่งใช้ทั้งหน้านะคะ แพ้ขึ้นว่าไม่คุ้มกัน
ตัวนี้อีกเช่นกันค่ะ ว่าจะหมักใช้เองละ เพราะที่บ้านมีต้นมะเฟืองพอดี กำลังหาข้อมูลอยู่คะว่าหมักด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์และหมักนานเท่าไร ฮ่าๆ
- ครีมมะขามพะเยา
ชิ้นสุดท้ายไม่มีรูปที่ถ่ายเองค่ะ กระปุกเลอะมาก ไม่กล้าออกสื่อ 555+ เหตุที่ซื้อมาเพราะอยากลองอีกแล้วค่ะ จริงๆปกติจะทำสครับมะขามสดใช้เอง คือเอามะขามเปียกไม่มีเม็ดแต่ยังมีใยกากมะขามอยู่มาคั้นกับนมสดให้ข้นๆแล้วขัดด้วยกากใยมะขามนั่นแหละค่ะ ชอบมาก ขัดแล้วรู้สึกผิวสะอาดและกระจ่างขึ้น ในที่นี้ไม่ได้ขาวขึ้นนะคะ แต่กรดผลไม้ธรรมชาติจะผลัดผิวทำให้กระจ่างขึ้นนั่นเอง คล้ายๆขัดขี้ไคล ฮ่าๆ
พอมาลองใช้ครีมมะขามพะเยา(พะเยาคือชฃื่อกลุ่มแม่บ้านที่ผลิตขายค่ะ) เนื้อครีมจะละเอียดและหนืดๆหน่อย บอกว่ามีส่วนผสมของมะขาม นมสด และขมิ้น ส่วนตัวคิดว่าเนื้อครีมเหมาะจะมาพอกมากกว่าขัด ถ้าจะใช้ทั่วตัวจะเปลืองสักหน่อย แต่รวมๆสะดวกดีค่ะ แต่ถ้าความชอบจะชอบแบบทำเองใช้เลยมากกว่า จะใช้ขัดตัวอาทิตย์ละครั้ง ทำมาหลายปีแล้ว ผิวที่มีปัญหาน้ำเหลืองไม่ดี ผิวไม่เนียนก็ดีขึ้นมากค่ะ รู้สึกตัวสะอาดดี ผิวเนียนกระจ่างขึ้นค่ะ
หมดแล้วค่ะ ของที่ใช้เองลองเอง ใครเบื่อสารเคมีอยาก back to nature บ้างก็ชวนมาลองค่า ของธรรมชาติดีไม่แพ้ใครเลย คอนเฟริ์ม
0 comments:
Post a Comment