Review and Swatch
e.l.f blush on 3 สี และ Golden Bronzer
เอาของสวยๆงามๆ เอ๊ะ หรือ ของเพื่อความสวยงามหว่า อิอิ เอามารีวิวค่ะ เป็นบรัชออนที่ขายในดรักสโตร์ของอเมริกา ถ้าซื้อที่ราคาไม่กี่บาท บางชิ้นไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำไป แต่บ้านเราถ้าอยากได้ ก็ต้องฝากหิ้ว พรี หรือซื้อจากแม่ค้าที่บินไปซื้อมาอีกทอด ราคาก็เลยไม่เลยไม่ตายตัว ขึ้นกับว่าจะโดนบวกเท่าไร ที่ซื้อมาจำราคาคร่าวๆ บรัชตลับละ 170 บาท บรอนเซอร์ 185 บาท(มั้ง) ซึ่งจริงๆแล้ว เขาอิตกันมานานแล้วล่ะค่ะ ว่าจะว่าจะ ก็ไม่ได้ถอยมาลอง เพราะตัวเองก็มีบรัชหลายอันอยู่ด้วย จนเพื่อนจะถอยก็เลยมาชวนแชร์ค่าส่ง จัดมาได้ บรัช 3 สี บรอนเซอร์ 1 ตลับ ได้อายแชโดว์ของยี่ห้อเดียวกันมาอีก 1 พาเลต ไว้ค่อยรีวิวทีหลังนะคะ ขอพูดเรื่องบรัชออนอย่างเดียวก่อน
ตัวแรกค่ะ
e.l.f golden bronzer
เคยได้หาข้อมูลรีวิวมาหลายที่ค่ะ บรอนเซอร์ที่ฮิตๆของ e.l.f จะเป็นอีกตัวที่มี 2 คู่สี แล้วสีด้านหนึ่งจะไปคล้ายสี orgasm ของ nars อีกด้านคล้ายสี laguna แต่พอไปดู swatch แล้วเราว่าไม่เหมือนนะ เคยได้ลองสี orgasm ของnars ชอบละแต่แพงเลยไม่ซื้อ สรุปเลยไม่เอา ขอถอยตัวนี้ ซึ่งบรอนเซอร์แบบ 4 ช่องของยี่ห้อนี้ จะมี 3 โทนมั้ง คือ warm,golden และอีกสีจำชื่อไม่ได้ หาอ่านจากรีวิว สาวเอเชียอันเดอร์โทนเหลืองส่วนใหญ่จะเชียร์สีนี้นะ ก็เลยเอามาลอง
ด้านในใต้แสงธรรมชาติ ลืมถ่ายด้านในใต้แสงไฟค่ะ
ลักษณะตลับเป็นสีดำด้าน ขนาดตลับค่อนข้างใหญ่ ด้านหลังจะมีสติ๊กเกอร์กลมๆเล็กๆบอกชื่อสีไว้ แต่บอกว่าผลิตในจีน (อ้าววววว) อายุการใช้งาน 12 เดือดหลังเปิดใช้ (สั้นไปไหม)มีกระจกให้ด้วย แต่ก๊องแก๊งไปนิด เปิด 2 ทีกระจกหลุด
มี 4 ช่องสีค่ะ ช่องขวาล่างจะปั๊มอักษร e.l.f เอารวมๆเป็นโทนทองๆอุ่นๆ ไม่มีวิ้งแต่วาวๆเงาๆ ซึ่งอยากได้แมทบรอนเซอร์มากกว่า สามารถแยกใช้ 4 ช่องเป็น บรัช ไฮไลท์ บรอนเซอร์ได้ จะว่าคุ้มก็คุ้ม แต่จะปัดรวมๆก็ได้อีก สีที่ออกมาเป็นแบบนี้เวลาปัดรวมกัน
ถามว่าประทับใจไหม ตอบว่า เฉยๆ เพราะมันอ่อนไปจะเอามาคอนทัวร์ แต่ก็พอใช้ได้ถ้าจะใช้เป็นบรอนเซอร์บางๆ ติดที่มันเงาๆวาวๆหน่อยๆนี่แหละที่อาจทำให้หน้าดูมันได้
แต่สีอ่อน ถ้าเป็นคนผิวขาวก็อาจจะกำลังพอดี เนื้อสีจิกยาก คงต้องใช้แปรงแข็งๆหน่อยมาจิกตัวสีขึ้นมา อืม เอาไว้ใช้เวลากลางคืนไปงานใต้แสงไฟน่าจะเหมาะกว่ากลางวัน เพราะมุมตกกระทบของแสงจะดูหรู มีมิติสวยกว่า
อย่างสีที่อาจใช้เป็นบรัช ปัดแรงๆ 3 รอบยังแทบไม่เห็นสีเลยค่ะ แต่ใครชอบปัดอะไรเบาๆบางๆอาจถูกใจมั้ง
ข้อดี
ข้อเสีย
ลักษณะตลับเล็กกว่าตลับบรอนเซอร์ครึ่งนึง สีดำด้าน มีช่องให้มองได้ว่าข้างในสีอะไร ด้านหลังตลับจะมีสติ๊กเอกร์กลมๆเล็กๆบอกชื่อสี และอายยุการใช้งาน 12 เดือน
เปิดตลับออกมามีพลาสติกพิมพ์คำว่า e.l.f studio วางกันตัวบรัชเอาไว้ ด้านในฝาปิดมีกระจกขนาดเล็กมาให้เท่ากับความกว้างของฝาปิด
สี tickled pink เป็นโทนชมพูอมแดงอมส้มนิดๆ มีลิตเตอร์ละเอียดมาก แต่ปัดแล้วมันก็ร่วงไปหมด เหลือไว้แต่ความวาว อารมณ์รวมมิตรมันทุกเฉดเท่าที่บรัชจะมี ฮ่าๆ
สีใต้แสงไฟ
สีใต้แสงธรรมชาติ
ลักษณะเนื้อฝุ่น เม็ดสีไม่แน่น สวยใช้ได้ แต่ติดไม่ทนเอาซะเลย เนื้อสีจิกยาก ใช้นิ้วถูมาสวอทช์ยังชัดกว่าใช้บรัชเลย เราว่าคนผิวขาวถึงขาวกลางๆน่าจะปัดแล้วขึ้น ดูน่ารักน่าชัง คนผิวเหลืองไม่ค่อยเกิดเท่าไรนะแต่ก็ไม่ได้ดับอ่ะ
สี candid coral สีส้มอมพีชอมชมพูนิดๆ อมอะไรไม่รู้อธิบายไม่ถูก สวยดีสำหรับบรัชโทนส้ม วาวๆเงาๆ แต่ปัดหนักมือแล้วโดดชัดเจน ดังนั้นต้องค่อยๆเพิ่มทีละนิดและเกลี่ยให้ดี
สีใต้แสงไฟ
สีใต้แสงธรรมชาติ
โดยรวมเราชอบนะเพราะชอบบรัชโทนส้มที่ไม่แปร๋นไปทางส้มมาก ปัดแล้วแก้มดูเหมือนสุขภาพดี บางคนเอาไปเทีบยกับ orgasm ของ nars อีกแล้ว เราว่าคล้ายแต่ไม่เหมือน คุณภาพแตกต่างเทียบไม่ได้เลย สีนี้ในรูปดันสีคล้าย tickled pink ซะงั้น--*สีเพี้ยนค่ะ
ใต้แสงแฟลชจะเห็นสีส้มมีวิ้งทอง
สามารถปัดประจำวันได้ ปัดได้เรื่อยๆ เติมระหว่างวันไปไม่ต้องเสียดายเพราะมันถูก
สี peachy keen สีนี้เป็นสีอมชมพูอมส้มอมทอง หนักไปทางชมพูกว่า candid coralแต่ดูเผินๆคล้ายๆกัน ปัดแล้วสีรวมๆออกมาทางไฉไลต์มากกว่าบรัช คือมันเงาวาวหมดทั้ง 3 สีแหละแต่สีนี้จะเนื้อออกหรูๆมากกว่า บอกไม่ถูก
สีใต้แสงไฟ
สีใต้แสงธรรมชาติ
เป็นสีที่ปัดแล้วดูผู้ดีแฮะ แต่อ่ะนะ ปัดกลางวันมองไม่ค่อยเห็น แต่ปัดกลางคืนสวย คนทุกสีผิวผิวน่าจะยิ่งเกิดเลยสีนี้ ถ้าปัดออกงาน
ใต้แสงแฟลชบ้าง แยกกับ candid coral ไม่ออกเพราะกล้อง แฮะๆ
มาสรุปข้อดีข้อเสียกันเถอะ
ข้อดี
จบแล้วค่ะ บรัชตระกูล e.l.f เราว่าคุณภาพกับราคาก็โอเคนะ คือไม่ได้ดีเว่อร์แต่ก็เกินราคา ใครอยากได้บรัชสีสวยๆต่างจากบรัชราคาช่วงเดียวกันในบ้านเราก็ลองหามาใช้ดูก่อนได้ค่ะ ลองสักสีเดียวก่อน ชอบค่อยซื้อเพิ่ม เพราะถึงจะถูก แต่ถ้าไม่ชอบไม่ใช้ก็เก็บเงินไว้จะดีกว่า
ด้านในใต้แสงธรรมชาติ ลืมถ่ายด้านในใต้แสงไฟค่ะ
มี 4 ช่องสีค่ะ ช่องขวาล่างจะปั๊มอักษร e.l.f เอารวมๆเป็นโทนทองๆอุ่นๆ ไม่มีวิ้งแต่วาวๆเงาๆ ซึ่งอยากได้แมทบรอนเซอร์มากกว่า สามารถแยกใช้ 4 ช่องเป็น บรัช ไฮไลท์ บรอนเซอร์ได้ จะว่าคุ้มก็คุ้ม แต่จะปัดรวมๆก็ได้อีก สีที่ออกมาเป็นแบบนี้เวลาปัดรวมกัน
ถามว่าประทับใจไหม ตอบว่า เฉยๆ เพราะมันอ่อนไปจะเอามาคอนทัวร์ แต่ก็พอใช้ได้ถ้าจะใช้เป็นบรอนเซอร์บางๆ ติดที่มันเงาๆวาวๆหน่อยๆนี่แหละที่อาจทำให้หน้าดูมันได้
แต่สีอ่อน ถ้าเป็นคนผิวขาวก็อาจจะกำลังพอดี เนื้อสีจิกยาก คงต้องใช้แปรงแข็งๆหน่อยมาจิกตัวสีขึ้นมา อืม เอาไว้ใช้เวลากลางคืนไปงานใต้แสงไฟน่าจะเหมาะกว่ากลางวัน เพราะมุมตกกระทบของแสงจะดูหรู มีมิติสวยกว่า
อย่างสีที่อาจใช้เป็นบรัช ปัดแรงๆ 3 รอบยังแทบไม่เห็นสีเลยค่ะ แต่ใครชอบปัดอะไรเบาๆบางๆอาจถูกใจมั้ง
ข้อดี
- ราคาถูก
- ใช้ได้หลายคุณสมบัติ
- เหมาะกับงานกลางคืน
ข้อเสีย
- หาซื้อยาก ราคาไม่แน่นอน
- เม็ดสีไม่แน่น เนื้อบรัชแข็งจิกสียาก
- ติดไม่ทน
e.l.f blush on - peachy keen, tickled pink and candid coral
ลักษณะตลับเล็กกว่าตลับบรอนเซอร์ครึ่งนึง สีดำด้าน มีช่องให้มองได้ว่าข้างในสีอะไร ด้านหลังตลับจะมีสติ๊กเอกร์กลมๆเล็กๆบอกชื่อสี และอายยุการใช้งาน 12 เดือน
เปิดตลับออกมามีพลาสติกพิมพ์คำว่า e.l.f studio วางกันตัวบรัชเอาไว้ ด้านในฝาปิดมีกระจกขนาดเล็กมาให้เท่ากับความกว้างของฝาปิด
สี tickled pink เป็นโทนชมพูอมแดงอมส้มนิดๆ มีลิตเตอร์ละเอียดมาก แต่ปัดแล้วมันก็ร่วงไปหมด เหลือไว้แต่ความวาว อารมณ์รวมมิตรมันทุกเฉดเท่าที่บรัชจะมี ฮ่าๆ
สีใต้แสงไฟ
สีใต้แสงธรรมชาติ
ลักษณะเนื้อฝุ่น เม็ดสีไม่แน่น สวยใช้ได้ แต่ติดไม่ทนเอาซะเลย เนื้อสีจิกยาก ใช้นิ้วถูมาสวอทช์ยังชัดกว่าใช้บรัชเลย เราว่าคนผิวขาวถึงขาวกลางๆน่าจะปัดแล้วขึ้น ดูน่ารักน่าชัง คนผิวเหลืองไม่ค่อยเกิดเท่าไรนะแต่ก็ไม่ได้ดับอ่ะ
สี candid coral สีส้มอมพีชอมชมพูนิดๆ อมอะไรไม่รู้อธิบายไม่ถูก สวยดีสำหรับบรัชโทนส้ม วาวๆเงาๆ แต่ปัดหนักมือแล้วโดดชัดเจน ดังนั้นต้องค่อยๆเพิ่มทีละนิดและเกลี่ยให้ดี
สีใต้แสงไฟ
สีใต้แสงธรรมชาติ
โดยรวมเราชอบนะเพราะชอบบรัชโทนส้มที่ไม่แปร๋นไปทางส้มมาก ปัดแล้วแก้มดูเหมือนสุขภาพดี บางคนเอาไปเทีบยกับ orgasm ของ nars อีกแล้ว เราว่าคล้ายแต่ไม่เหมือน คุณภาพแตกต่างเทียบไม่ได้เลย สีนี้ในรูปดันสีคล้าย tickled pink ซะงั้น--*สีเพี้ยนค่ะ
ใต้แสงแฟลชจะเห็นสีส้มมีวิ้งทอง
สี peachy keen สีนี้เป็นสีอมชมพูอมส้มอมทอง หนักไปทางชมพูกว่า candid coralแต่ดูเผินๆคล้ายๆกัน ปัดแล้วสีรวมๆออกมาทางไฉไลต์มากกว่าบรัช คือมันเงาวาวหมดทั้ง 3 สีแหละแต่สีนี้จะเนื้อออกหรูๆมากกว่า บอกไม่ถูก
สีใต้แสงไฟ
สีใต้แสงธรรมชาติ
ใต้แสงแฟลชบ้าง แยกกับ candid coral ไม่ออกเพราะกล้อง แฮะๆ
มาสรุปข้อดีข้อเสียกันเถอะ
ข้อดี
- ราคาถูก
- สีสวย
- ตลับโอเคไม่แข็งแรงมากขนาดว่าตกแล้วไม่สะดุ้งสะเทือนแต่ก็ไม่ก๊องแก๊ง ตลับคล้ายนาร์อ่ะว่างั้น มีกระจกในตลับด้วย แต่ไม่มีแปรง
- เม็ดสีไม่แน่น
- ติดไม่ทน
- ฝุ่นสีเยอะ ยิ่งใช้แข็งมาจิกสี ฝุ่นยิ่งเลอะตลับชัดเจน
จบแล้วค่ะ บรัชตระกูล e.l.f เราว่าคุณภาพกับราคาก็โอเคนะ คือไม่ได้ดีเว่อร์แต่ก็เกินราคา ใครอยากได้บรัชสีสวยๆต่างจากบรัชราคาช่วงเดียวกันในบ้านเราก็ลองหามาใช้ดูก่อนได้ค่ะ ลองสักสีเดียวก่อน ชอบค่อยซื้อเพิ่ม เพราะถึงจะถูก แต่ถ้าไม่ชอบไม่ใช้ก็เก็บเงินไว้จะดีกว่า
0 comments:
Post a Comment